(https://img2.pic.in.th/pic/---2f422ca48f7060dc9.jpg)
(https://www.pimplernprint.com/catalog)พิมพ์แคตตาล็อก
งานพิมพ์แคตตาล็อกโดยความเป็นจริงแล้วตามความหมายที่ถูก คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
ควรจะมีบทนำ สารบัญ รายละเอียดโดยไม่ได้แตกต่างจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แม้กระนั้นหากว่าในขณะนี้งานเอกสารแคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนแปลงความหมายไปเป็นการตามลักษณะของการใช้งาน ซึ่งความหมายแปลงเป็นงานพิมพ์ที่แสดงรายละเอียด
ของสินค้าโดยจะมีรูปภาพประกอบและก็อาจจะมีคำบรรยายหรือคำแนะนำผลิตภัณฑ์ควบคุมไว้ ซึ่งปัจจุบันนี้กลายเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่จำเป็นต้องเป็นรูปเล่มหรือควรมีส่วนประกอบอย่างบทนำและสารบัญก็ได้ โดยที่นิยมมากมายในปัจจุบัน
ก็คืองานพิมพ์แคตตาล็อกแบบอย่างแผ่นพับ เป็นต้น
รูปแบบของแคตตาล็อกที่ถูกต้อง คือ งานพิมพ์โฆษณาประเภทการแสดงระเอียดรายการที่สินค้าที่ผู้จัดทำ
ต้องการพรีเซนเทชั่น โดยจะมีภาพประกอบผลิตภัณฑ์ ชื่อสินค้าแล้วก็เนื้อหาของสินค้านั้น ซึ่งอาจจะมีการจัดประเภทเป็นกลุ่ม
ชนิดผลิตภัณฑ์เพื่อจ่ายต่อการแยกประเภท โดยจะมีการทำสารบัญเพื่อง่ายต่อการค้นหา ทั้งนั้นเอกสารทั้งปวงจะถูก
จัดทำเป็นรูปแบบรูปเล่มคล้ายกับวารสาร โดยจุดประสงค์ด้านการใช้งานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นระบุแจ่มแจ้งใน
ด้านเนื้อหา แตกต่างจากงานเอกสารโปรโมทประเภทอื่นๆที่ผู้จัดทำต้องการจะใส่รายละเอียดจำพวกไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แต่ว่าสำหรับ
สิ่งพิมพ์นี้ถ้าเมื่อคนพูดถึงงานพิมพ์แคตตาล็อก ในความนึกคิดทุกคนต้องคิดภาพเอกสารที่มีรูปสินค้าแล้วก็รายละเอียดในทันที
แต่เนื่องจากการพิมพ์แคตตาล็อก (https://www.pimplernprint.com/catalog)เป็นรูปแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากรวมถึงมีความดกและขนาดใหญ่
จึงไม่เหมาะสมในการใช้งานจำพวกการแจกจ่ายแบบทั่วๆไปตามถนน ก็เลยทำให้มีการทำแผ่นพับที่กำหนดจำพวกเจาะจงรายละเอียด
ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งทำให้คนธรรมดาทั่วไปเรียกแผ่นพับกลุ่มนี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างมากมายซึ่งถือว่าผิดต้องตามหลักการใช้งานควรจะเรียก
เป็นแผ่นพับมากกว่า ในการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นคนจัดทำจำต้องจัดรูปแบบการเดินเรื่อง โครงสร้างเนื้อหา พวก รวมทั้งจำนวน
หน้า รวมถึงปริมาณเล่มที่จำต้องผลิต เนื่องจากว่าการต้นแบบการพิมพ์ไม่ต่างอะไรจากหนังสือเพราะเหตุว่าจำนวนเล่มต้องมากมายในระดับหนึ่งเพื่อ
คุ้มค่ากับต้นทุนสำหรับในการทำแม่พิมพ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขนาดของงานพิมพ์แคตตาล็อกโดยปกติควรจะใช้ขนาดโดยประมาณ A4 , A5 ,A6 หรืออาจจะใหญ่หรือเล็กมากยิ่งกว่าสัก
เล็กน้อย เนื่องจากหากขนาดที่แปลกเกินไปบางครั้งอาจจะจะต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มเติมอีก การเลือกใช้กระดาษก็ชอบเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แต่ว่าที่จำต้องพินิจพิเคราะห์เรื่องความงดงามเป็นพิเศษโน่นคือ ปกของแคตตาล็อก โดยมักจะใช้กระดาษที่มีความหนากว่า
ข้างใน เป็นต้นว่า อาร์ตการ์ด เป็นต้น ทั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการตกแต่งพิเศษจำพวก Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนท้ายที่สุดการเข้ารูปเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความครึ้มของรูปเล่มอีกทีหนึ่ง
เนื่องจากพิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากจึงไม่นิยมใช้เป็นสื่อโฆษณาที่ใช้แจกพร่ำเพรื่อและไม่เหมาะสมกับ
กรุ๊ปลูกค้าทั่วไป ต้องใช้สำหรับกรุ๊ปลูกค้าที่ความสนใจจริงๆและก็มีโอกาสบริโภคแค่นั้น ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็อาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรือบางทีก็อาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาถามไถ่ถึงสินค้าของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านท่านแล้ว อย่างเช่น ลูกค้ามาเดินดูรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ จะต้องแจกแคตตาล็อกที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ประกอบการ
ตัดสินใจเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ท้ายที่สุดการพิมพ์แคตตาล็อกต้องมีการวางเป้าหมายและก็นึกถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างยอดเยี่ยมเสียทุกหนก่อนจะมีการทำ
พิมพ์แคตตาล็อก